1.การฉีดผิวขาวดีอย่างไร
การฉีดผิวขาว จะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรก ที่ฉีดเข้าไปในเส้นเลือด ผลจากการฉีดสามารถเปลี่ยนสีผิวได้ จากผิวคล้ำเป็นผิวขาวใสขึ้นทันที การฉีดผิวขาวจะฉีดกันเป็นคอร์ส โดยจะฉีดกันสัปดาห์ละเข็ม จะเห็นผลชัดเจนประมาณเข็มที่ 3 และเริ่มมีออร่า แบบดาราตามคำโฆษณา และนั้นจึงสามารถ ทำให้ใครต่อใคร อยากจะฉีดผิวขาวให้ตัวเองดูดีขึ้นนั้นเอง
2.การฉีดกลูต้าไธโอนเพื่อผิวขาว
ตามสถานเสริมความงาม นิยมฉีดสารกลูต้าไธโอนเข้าไป เนื่องจากกลูตาไธโอน สามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำ เป็นเม็ดสีชมพูขาว อีกทั้งวิตามิน C วิตามิน E วิตามิน A มีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ที่จะมาทำลายคอลลาเจน มีผลในการป้องกันการทำลายเซลล์ หรือการเสื่อมสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย จึงช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง และผิวขาวใสได้ ทั้งนี้การฉีดกลูต้าไธโอน มีผลข้างเคียงคือ ทำให้เม็ดเลือดดำเปลี่ยนเป็นสีชมพู ทุกวันนี้การใช้กลูต้าไธโอน ถือว่าเป็นการใช้ในทางที่ผิด และยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าขาวได้อย่างถาวร
3.การฉีดคอลลาเจนเพื่อลดริ้วรอย
การฉีดคอลลาเจน สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่น เนื่องด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้ริ้วรอยแผลเหี่ยวย่นหายไป ช่วยยกระดับกระชับผิว บริเวณที่ฉีดให้เต่งตึง มีความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง และช่วยลดริ้วรอยแผลเป็น ให้แผลตื้นขึ้นได้ มีการนำคอลลาเจนมาใช้ในระยะ 20 กว่าปีที่ผ่านมาอย่างแพร่หลาย แต่ผลของการฉีดคอลลาเจน จะไม่คงทนถาวร ต้องฉีดซ้ำภายใน 6-8 เดือน และหากฉีดในปริมาณมากไป ริ้วรอยต่าง ๆ หรือแผลเป็น อาจจะเป็นรอยนูนขึ้นมามากกว่าเดิมได้
4.การฉีดวิตามินเพื่อผิวขาว และทนทานต่อแสงแดด
เป็นที่รู้ ๆ กันดีอยู่แล้วว่า วิตามิน C มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเซลล์ผิว บำรุงเซลล์ผิวที่แข็งแรง และช่วยชะลอริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวได้ ส่วนแบบฉีดนั้น จะเห็นผลได้ชัดเจนกว่าการกิน เพราะการฉีดเข้าไปทางหลอดเลือด จะออกฤทธิ์ทันทีทั่วร่างกาย ซึ่งการเปลี่ยนแปล จะเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด เช่น ผิวดูสดใส หน้าตาไม่หมองคล้ำ แผลหายง่ายกว่าเดิม และทำให้ผิวขาวได้นั้นเอง
Facebook Comments